ChatGPT Deep Research เชื่อมต่อ GitHub ได้แล้ว

ChatGPT เปิดทดสอบ Deep Research เชื่อมต่อ GitHub สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินแล้ว ช่วยให้ตรวจสอบ วิเคราะห์ และอ้างอิงโค้ดได้โดยตรงจาก repository
ChatGPT-Deep-Research-เชื่อมต่อ-GitHub-ได้แล้ว2
ChatGPT เปิดทดสอบ Deep Research เชื่อมต่อ GitHub สำหรับผู้ใช้แบบเสียเงินแล้ว ช่วยให้ตรวจสอบ วิเคราะห์ และอ้างอิงโค้ดได้โดยตรงจาก repository

OpenAI ได้เริ่มเปิดทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า “Deep Research” ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ GitHub ได้โดยตรงในสัปดาห์นี้ โดยมุ่งเน้นให้บริการแก่ผู้ใช้แบบเสียเงิน ได้แก่ แพ็กเกจ Plus, Pro และ Team เป็นกลุ่มแรกที่ได้รับสิทธิ์เข้าใช้งานก่อน ขณะที่ผู้ใช้แพ็กเกจ Enterprise และ Edu คาดว่าจะสามารถทดลองใช้งานได้เร็วๆ นี้ ความสามารถใหม่นี้เปิดทางให้ผู้ใช้งานสามารถอนุญาตให้ AI เข้าถึง repository ที่เลือกไว้ และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาในโค้ด ซึ่ง ChatGPT จะให้คำตอบพร้อมการอ้างอิงอย่างเป็นระบบ

นักพัฒนาโปรแกรมถือเป็นกลุ่มผู้ใช้งานที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการพัฒนานี้ ด้วยความสามารถของ ChatGPT ในการวิเคราะห์โค้ด ตรวจสอบจุดผิดพลาด เช่น การลืมปิดวงเล็บ หรืออธิบาย logic ที่ไม่ทำงานอย่างละเอียด ทำให้การผสานการทำงานระหว่าง AI และ GitHub โดยตรงนั้นช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและประหยัดเวลาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่าง GitHub ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Microsoft และ OpenAI ยังส่งผลให้การผนวกรวมเทคโนโลยีเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง

ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้เปิดตัว Deep Research ในฐานะเครื่องมือที่เน้นการวิเคราะห์เชิงลึก โดยเริ่มให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้แพ็กเกจ Pro เท่านั้น แต่ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทได้ขยายสิทธิ์การใช้งานไปยังผู้ใช้ทุกคนที่มีการสมัครแพ็กเกจแบบชำระเงิน ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการในตลาดที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในหมู่นักพัฒนาและผู้ที่ต้องทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่หรือโค้ดที่ซับซ้อน

การเชื่อมต่อระหว่าง ChatGPT Deep Research กับ GitHub จึงนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการใช้ AI เข้ามาช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่จะสามารถขอให้ AI ช่วยอธิบายโค้ด แต่ยังสามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ภายใน repository และสืบค้นข้อมูลด้วยแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน ฟีเจอร์นี้มีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของนักพัฒนาในอนาคต และเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ AI จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ขาดไม่ได้ในสายงานเทคโนโลยี


อ้างอิงจาก : Engadget

Previous Article

เปิดตัว Typhoon OCR : พลิกโฉมการอ่านเอกสารด้วย AI ภาษาไทย-อังกฤษ

Next Article

UAE ประกาศแจก ChatGPT Plus ฟรีทั้งประเทศ พร้อมสร้างศูนย์ AI ใหญ่สุดในโลก

Write a Comment

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *